การเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิต: แบบดิจิทัล vs แบบปรอท
ความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่พบได้บ่อยในคนไทย และมักไม่มีอาการเตือนชัดเจน การตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำจึงมีความสำคัญทั้งในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และติดตามผลการรักษา เครื่องวัดความดันโลหิตจึงไม่ใช่อุปกรณ์ที่ควรมีเฉพาะในโรงพยาบาลหรือคลินิกเท่านั้น แต่ ควรมีติดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และครอบครัวทั่วไป ด้วยเช่นกัน
1. เครื่องวัดความดันแบบปรอท (Mercury Sphygmomanometer)จุดเด่น- ความแม่นยำสูงมาก: ถือเป็น “มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)” ในการวัดความดันโลหิตทั่วโลก เพราะค่าที่ได้มีความคงที่และเที่ยงตรง
- ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่: สามารถใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงาน
- เหมาะกับบุคลากรทางการแพทย์: เช่น โรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาลที่ต้องการความแม่นยำระดับสูง
ข้อจำกัด- พกพาลำบาก: ตัวเครื่องมีน้ำหนักมาก ไม่เหมาะกับการใช้งานที่บ้านหรือการพกติดตัว
- ต้องใช้ทักษะในการวัด: จำเป็นต้องใช้หูฟังทางการแพทย์และเทคนิคที่ถูกต้อง
- ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม: ปรอทเป็นสารอันตราย หากรั่วไหลจะต้องกำจัดอย่างถูกวิธีตามมาตรฐานความปลอดภัย
เครื่องแบบปรอทมักนิยมใช้ในสถานพยาบาลที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเฉพาะทาง

2. เครื่องวัดความดันแบบดิจิทัล (Digital Blood Pressure Monitor) จุดเด่น- ใช้งานง่าย: วัดค่าได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยสามารถใช้งานเองได้
- เหมาะกับการใช้งานที่บ้าน (Homecare): ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- มีฟังก์ชันเสริม เช่น
- บันทึกค่าอัตโนมัติ (Memory)
- เชื่อมต่อกับแอปบนมือถือผ่าน Bluetooth/Wi-Fi
- แจ้งเตือนภาวะผิดปกติของหัวใจ (เช่น ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ)
- ไม่ต้องใช้ทักษะทางการแพทย์มาก: เหมาะสำหรับประชาชนทั่วไป
ข้อควรระวัง- ความแม่นยำอาจน้อยกว่าแบบปรอท หากเลือกยี่ห้อที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ต้องเปลี่ยนถ่านหรือชาร์จแบตเตอรี่เป็นระยะ
- อาจมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย หากผู้ใช้นั่งไม่ถูกท่าหรือขยับตัวขณะวัด
เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง, ผู้สูงอายุ, คลินิกทั่วไป, โรงพยาบาลชุมชน, หรือการใช้งานติดบ้านเพื่อการติดตามสุขภาพประจำวัน
3. คำแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องวัดความดันโลหิต1. เลือกชนิดเครื่องให้เหมาะกับการใช้งาน- แบบปรอท ➝ เหมาะกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องการความแม่นยำสูง
- แบบดิจิทัล ➝ เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในบ้านหรือคลินิกขนาดเล็ก
2. เลือกขนาดปลอกแขน (Cuff) ให้เหมาะกับรอบต้นแขน- ถ้าปลอกแขนเล็กเกินไป ➝ ค่าที่ได้จะสูงเกินจริง
- ถ้าปลอกแขนใหญ่เกินไป ➝ ค่าที่ได้จะต่ำเกินจริง
- สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป มักใช้ขนาด 22–32 ซม.
- (และมีรุ่นสำหรับต้นแขนใหญ่ 32–45 ซม.)
3. ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ- ใบรับรอง อย. (ประเทศไทย)
- มาตรฐาน ISO / CE / ESH (European Society of Hypertension)
- ➝ บ่งบอกว่าเครื่องผ่านการทดสอบความแม่นยำระดับสากล

4. ตรวจสอบการรับประกันและบริการหลังการขาย- เลือกแบรนด์ที่มีศูนย์บริการในประเทศ
- มีอะไหล่สำรองและสามารถสอบเทียบ (Calibration) ได้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ
5. ความสามารถเพิ่มเติม (Optional)- ฟังก์ชันบันทึกค่าการวัดหลายคนในครอบครัว
- การเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนเพื่อดูกราฟย้อนหลัง
- ระบบแจ้งเตือนถ้าสายรัดไม่แน่นหรือท่านั่งไม่ถูกต้อง


5. สรุป- เครื่องวัดความดันแบบปรอท ➝ เหมาะสำหรับสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องการความแม่นยำสูงที่สุด
- เครื่องวัดความดันแบบดิจิทัล ➝ เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในบ้าน ครอบครัวผู้ป่วย ผู้สูงอายุ หรือคลินิกที่ต้องการความสะดวกและใช้งานง่าย
- ไม่ว่าจะเลือกแบบใด สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใช้งานอย่างถูกต้อง และ การวัดเป็นประจำ เพื่อควบคุมโรคความดันโลหิตสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหมาะสำหรับ:- ครอบครัวผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
- คลินิกทั่วไป / โรงพยาบาลชุมชน
- โรงพยาบาลเอกชน / หน่วยงานสุขภาพ / Homecare
เมื่อเลือกซื้อ ควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรอง และบริการหลังการขายที่ดี เพื่อความปลอดภัยและความแม่นยำในการดูแลสุขภาพระยะยาว