การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG คืออะไร?

Last updated: 20 มิ.ย. 2568  |  180 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG คืออะไร?

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG คืออะไร?
          การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography หรือ EKG) เป็นการตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าของหัวใจที่ปล่อยออกมาในแต่ละจังหวะของการเต้น หรือจังหวะของการบีบและคลายตัว เพื่อค้นหาความผิดปกติ เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรคต่างๆ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความเสี่ยงหัวใจล้มเหลว ภาวะความดันโลหิตสูง หรือหาสาเหตุของอาการเจ็บหน้าอกอื่นๆ รวมไปถึงตรวจเพื่อดูสภาพหัวใจของผู้ป่วยที่ได้รับยาที่มีผลต่อหัวใจ โดยการตรวจ EKG มักเป็นการตรวจวิธีแรกๆ ที่จะเลือกใช้ เมื่อผู้ป่วยมีประวัติหรือมีอาการที่น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ ซึ่งผลตรวจที่ได้จะเป็นเหมือนตัวตั้งต้นในการพิจารณาให้ทำการตรวจด้วยวิธีอื่นๆ ต่อไปตามความเหมาะสม


ใครบ้างที่ควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG?

ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคหัวใจ
ผู้ที่มีอาการอันสงสัยได้ว่า อาจเป็นโรคหัวใจ เช่น ใจสั่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย
ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง หรือเป็นโรคเบาหวาน
ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย
 



การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายก่อนเข้ารับการตรวจ
ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
หากอยู่ในช่วงที่รับประทานยาหรืออาหารเสริม ต้องแจ้งแพทย์ก่อนทำการตรวจ เนื่องจากอาจทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อนได้
 

 

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ สามารถบอกอะไรได้บ้าง?

การตรวจ EKG สามารถให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจได้หลายประการ ดังนี้

·     อัตราการเต้นของหัวใจ: EKG สามารถวัดความเร็วในการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ

·     จังหวะการเต้นของหัวใจ:ช่วยตรวจหาความผิดปกติของจังหวะการเต้นหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ

·     ขนาดและตำแหน่งของห้องหัวใจ: สามารถบ่งชี้ถึงการขยายตัวหรือหนาตัวของผนังหัวใจ

·     การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ: ช่วยตรวจภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

·     ภาวะหัวใจล้มเหลว: สามารถแสดงสัญญาณของภาวะหัวใจทำงานหนักเกินไป

·     ผลกระทบจากยา: EKG สามารถแสดงผลข้างเคียงของยาบางชนิด ที่มีต่อการทำงานของหัวใจ

 

ข้อดีของการตรวจ EKG

·      เป็นการตรวจที่ไม่เจ็บปวดและไม่มีความเสี่ยง

·      ใช้เวลาในการตรวจน้อย

·      สามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ

·      เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ในกรณีสงสัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ

·      เป็นการตรวจที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการตรวจหัวใจชนิดอื่น

 

วิธีเลือกซื้อเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

หากคุณกำลังมองหาเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อใช้ที่บ้าน มีปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาดังนี้:

1. ประเภทของเครื่อง

แบบพกพา (Portable ECG) – เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัว ใช้งานง่าย และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้
แบบมืออาชีพ (Clinical ECG) – เหมาะสำหรับสถานพยาบาล มีความแม่นยำสูง และมีฟีเจอร์การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
2. จำนวนช่องวัด (Leads)

เครื่อง 1-Lead (ช่องเดียว) – เหมาะสำหรับการตรวจวัดเบื้องต้นและติดตามผลสุขภาพ
เครื่อง 6-Lead หรือ 12-Lead – เหมาะสำหรับการตรวจอย่างละเอียด โดยเฉพาะในโรงพยาบาล
3. การเชื่อมต่อและการใช้งานร่วมกับแอป

เครื่องที่สามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือ Wi-Fi เพื่อซิงค์ข้อมูลกับแอปพลิเคชันช่วยให้สะดวกต่อการติดตามผล
ตรวจสอบว่าแอปรองรับการบันทึกข้อมูลย้อนหลัง และสามารถแชร์ข้อมูลกับแพทย์ได้หรือไม่
4. ความแม่นยำและมาตรฐานทางการแพทย์

ควรเลือกเครื่องที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานทางการแพทย์ เช่น FDA (สหรัฐอเมริกา) หรือ CE (ยุโรป)
ตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเพื่อดูว่ามีปัญหาการอ่านค่าผิดพลาดหรือไม่
5. ราคาและความคุ้มค่า

เครื่องตรวจ EKG แบบพกพามีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์และคุณภาพ
ควรเลือกเครื่องที่ตรงกับความต้องการ ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องที่แพงเกินไปหากใช้เพียงเพื่อตรวจสุขภาพเบื้องต้น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้